top of page
  • ความรักในแง่ของธรรมะ 

อนิจจัง  เป็นสิงไม่เที่ยง (เปลี่ยนแปลงได้ เสื่อมได้) 

 ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนไม่มีอะไรแน่นอน ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เพราะมันเป็นธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น สิ่งของที่เรารักมาก สักวันนึงมันก็พัง ความสัมพันธ์ของครอบครัว คนที่เรารัก เปลี่ยนแปลงได้ตลอด เรารักสิ่งหนึ่งมาก แต่สักวันมันก็ต้องจากเราไปอย่างแน่นอน 

 

ทุกขัง  สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์  (ดับได้  แตกสลายได้)

  ทุกข์คือสิ่งที่เรายึดมั่นถือมั่น อาจจะเป็นการที่เรายึดติดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนกลายเป็นกิเลส เราต้องการสิ่งนั้นแต่เราไม่ได้ เราก็ทุกข์ แค่เกิดมาก็เกิดทุกข์แล้ว แค่หิวแล้วไม่ได้กินข้าว ทำให้เราไม่อิ่มท้องก็เกิดทุกข์แล้ว 

อนัตตา  สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตน บุคคลเราเขา บังคับบัญชาไม่ได้ มีแต่สิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยกัน)

ความไม่มีตัวตนเป็นอย่างไร บังคับบัญชาไม่ได้เป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างเป็นสัจจธรรม เราไม่สามารถบังคับได้นอกจากจิตของเรา และผู้ที่มีชัยชนะอยู่เหนือสิ่งทั้งปวงคือการระงับกิเลสได้ และมีความรู้แจ้งว่าอะไรเป็นจริง 

 

  • ความหมายของความรัก

ความรัก เป็นความรู้สึก สภาพและเจตคติต่าง ๆ ซึ่งมีตั้งแต่ความชอบ ระหว่างบุคคลหมายถึงอารมณ์การดึงดูดและความผูกพัน  ส่วนบุคคลอย่างแรงกล้า ในบริบททางปรัชญา ความรักเป็นคุณธรรมแสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความเสน่หาทั้งหมดของมนุษย์ ความรักเป็นแก่นของหลายศาสนา อย่างเช่นในวลี "พระเจ้าเป็นความรัก" ของศาสนาคริสต์ หรืออากาเปในพระวรสารในสารบบ ความรักยังอาจอธิบายได้ว่าเป็นพฤติกรรมต่อตนเองหรือผู้อื่นซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเห็นอกเห็นใจ หรือความเสน่หา 

ความรักในคามหมายของเราคือ การที่ได้รับความอบอุ่นจากความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ การได้รับการเติมเต็มและการมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ชีวิตของเราอยู่ได้ด้วยความรัก เพราะมันทำให้เรามีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ มันทำให้เรามีความสุข ความรักในชีวิตที่เราพบเจอมาและมันสำคัญกับชีวิตเรา คือ รักจากครอบครัว ความรักจากคนรัก ความรักจากเพื่อน อาจารย์ ความรักที่มีให้กับดนตรี และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ การให้ความอบอุ่นและให้ความรักับตัวเอง

bottom of page