top of page
แพร profile มีกรอบ.jpg
About Me 

สวัสดีค่ะ ชื่อรุ่งตะวัน ปูรณะสุคนธ ชื่อเล่นชื่อแพร เป็นนักศึกษาสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา อยู่ชั้นปีที่ 3 เรียนเครื่องมือเอกเปียโนกับอ.ชันยพงศ์ ทองสว่างค่ะ เริ่มเรียนดนตรีตอนอายุประมาณ 7 ขวบ และเปียโนเป็นเครื่องดนตรีเครื่องแรกที่ได้เล่น จนปัจจุบันนี้ก็ยังเล่นอยู่ค่ะ เพราะชอบเสียงเปียโน มันฟังดูนุ่มนวลและอ่อนหวาน แนวเพลงที่สนใจมีหลากหลายแนว คือ ดนตรีไทย ดนตรีแจส ดนตรีคลาสสิค เพลงลูกทุ่ง เพลงไทยเดิม และเพลงสากลค่ะ

I กุหลาบดงแนคหมายเพลง.jpeg

เพลง I  จัดอยู่ในอัลบั้ม First Love ของ Yiruma ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 2 ของ Yiruma  ผลงานที่โด่งดังของเขาคือ  "River Flows in You", "Love Hurts", "Kiss the Rain", and "May Be" 

ส่วนเพลง I ของ Yiruma แต่งแบบใช้คอร์ด G แล้วส่งไป Cm พลิกกลับซึ่งเบสยังเป็นตัว G อยู่ เราฟังแล้วรู้สึกว่าทำนองมีความหวาน โดยในความหวานก็ได้มีความโศกเศร้าซ่อนอยู่ข้างใน เพราะปกติบทเพลงในบันไดเสียง Minor ต่างก็ให้ความรู้สึกเศร้าและหม่นหมอง 

 

เพลง I เป็นเพลงป๊อปที่ฟังแล้วไพเราะและซาบซึ้ง เพลงของ Yiruma ไม่ได้มีความหมายตายตัว เขาตั้งใจจะสื่อถึงความรู้สึกเกี่ยวกับดนตรีที่มันอยู่ภายในใจ  ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ โดยให้ผู้ฟังแต่ละคนไปค้นหาความหมายของความรู้สึกนั้นที่ซ่อนอยู่ในเพลงกันเอาเอง (แต่ละคนฟังแล้วรู้สึกถึงความหมายที่ต่างกันออกไป ไม่มีใครผิดถูก) ซึ่งอัลบั้มที่ชื่อ First love ก็มีความหมายตรงตัว คือรักแรกพบ  ก็แล้วแต่ว่า เรารู้สึกหรือตีความว่ารักแรกพบของเราเป็นแบบไหน เราเคยได้สัมผัสความรักแบบไหนมาบ้าง  

     

Style ดนตรีของ Yiruma เน้นไปที่ยุคใหม่ เหมือนเป็นเพลงป๊อปทั่วไปเป็นหลัก และกล่าวกันว่าคล้ายกับดนตรีคลาสสิกร่วมสมัยในภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ เพราะดนตรีของเขาเป็นที่นิยมในตลาดผู้ฟังส่วนใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยกับดนตรีคลาสสิก 

 

Repertoire

Piano solo

Piano Duet

Chamber Music

Collabrorative

  • Schubert, Trio op. 100 - Andante con moto

  • G.B. Pergolesi: Sonata No. 3

  • Moszkowski Suite for Two Violins & Piano - 2st mvt.

  • Händel-Sonata for 2 violins and piano in g minor op. 2 mo.7 

  •   Sonata in F minor, Kp. 239

  • Chopin - Waltz in B minor, Op. 69 No. 2

  • The school of velocity Etude op.299 no.33

  • Haydn: Piano Sonata in D, No.50, Hob.XVI/37

  • Chopin - Etude Op. 10 No. 3 (Tristesse)

  • Debussy - Arabesque No. 1 (Ciccolini)

  • Bach Prelude and Fugue No.3

  • F. Mendelssohn: Song without words Op.62, No.6, "Spring Song"

  • Chopin Impromptus - No.1 in A flat Major, Op.29

  • Scott Bradlee| Dream A Little Dream Of Me

  • Prelude et allegro F. Kreisler

  • Cello Concertino No. 1 in C Major, Op. 7

  • Haydn Trumpet Concerto in Eb major

  • The Sleeping Beauty Waltz (Tchaikovsky) - Piano 4 Hands, Arr. Rachmaninoff

  • Black Facebook Icon
  • Black Twitter Icon
  • Black Instagram Icon
performance
1578137858018-01.jpeg
Facebook : Rungtawan Purnasugandha
instragram : praeprae_pur
gmail : rungtawan.pur@pgvim.ac.th
Tel : 089-499-9078

ความรักของ Composer

- ความรักของคีตกวีแต่ละคน

1.) Brahms 

เรื่องความรักของ Brahms ที่เด่นๆนั้น เปรียบได้เหมือนกับเป็นรักสามเศร้า เริ่มจากที่ Brahms ตอนอายุ 20 เขามีความสามารถในการเล่นเปียโนอย่างมาก เขาได้ออกเดินทางไปหา Robert Schumann เพื่อที่จะไปเรียนเปียโนด้วยตามคำแนะนำของนักไวโอลินที่ชื่อ … และนี่คือจุดเริ่มของความรักทั้งหมด

   บรามเริ่มนั่งลงเล่นเปียโนให้ Robert ฟัง แต่ไม่ทันไร Robert ก็บอกให้หยุดเพราะเขาเล่นได้ไม่ทัน Robert ก็บอกให้หยุดแล้วรีบไปตาม Crara ภรรยาสาวของเขา มานั่งฟังดนตรีไปพร้อมกัน ด้วยความที่คามสามารถที่ล้นเหลือของบรามฆืในวัยเพียง 20 ทำให้ Robert และ Clara ประทับใจในตัวบรามห์อย่างมาก ทำให้ Robert กับ Brhms สนิทสนมกันมากกว่า ลูกศิษย์กับอาจารย์ และผลงานต่างๆของ Robert ก็มีอิทธิพลในผลงานต่อมาของบรามห์เช่นกัน 

      สุดท้ายเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เป็นเพราะความไกล้ชิดสนิทสนมและความสามารถของบรามห์ทำให้ Clara กับ Brahms ตกหลุมรักกัน ซึ่งความสัมำันธ์ของทั้งคู๋นั้นไม่มีใครตอบได้แน่ชัด แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือทั้งคู๋เติมเต็มและเชื่อมั่นในกันและกัน และคอยส่งจดหมายถึงกันเสมอ 

 แต่สุดท้ายชีวิตมันไม่ได้สวยงามอย่างนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู๋ไม่สามารเดินต่อได้เพราะ Clara ยังเป็นภรรยาของ Robert อยู่ และ Robert ก็เป็นอาจารย์ที่ Brahms เคารพ 

 

                 ต่อมาไม่นาน สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก คือ Robert ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช และพยายามฆ่าตัวตายโดยการกระโดดแม่น้ำ Rhine สะพาน แต่ก็มีคนช่วยไว้ทัน  Robert ถูกห้ามไม่ให้เจอ Clara ขณะที่ทำการรักษาอยู่ Brahms จึงคอยดูแล Clara และเล่นดนตรีให้เธอฟังเสมอ ทั้งสองคนจึงรักกันมากขึ้นไปอีก ไม่นาน Robert ก็เสียชีวิตจากไป ทิ้งให้ Clara ดูแลลูกชาย 3 คน และ ลูกสาวอีก 4 คน

อย่างไรก็ตามด้วยรักและความเคารพนับถือต่อ Robert Schumann ถึงเขาจะตายไปแล้ว ทั้งสองก็ยังคงตัดสินใจที่จะแยกจากกัน

.

คงเพียงความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไว้ คอยอัพเดทถึงกันเสมอ แม้ว่าความรู้สึกที่มีต่อกันจะมากมายแค่ไหนก็ตาม

ตัวอย่างจดหมายของบรามห์ที่เขียนถึง Clara 

]https://www.brainpickings.org/2017/02/21/clara-schumann-johannes-brahms-letters/

2.) Liszt 

เขาเป็นคนที่มีความเจ้าชู้ ด้วยความที่ เขาเป็นคนที่เล่นเพลงได้ Expressive แพรวพราว และในยุคนั้นยังไม่มีใครเล่นได้เท่าเขา สาวๆจึงชอบเขา และเขาป๊อปปูล่าในหมู่สาวๆมาก และหวือหวาอย่างมาก เขาอินกับทุกความรู้สึก เขาดื่มด่ำกับทุกช่วงความรู้สึก เพลงที่เขาแต่งมันมทั้งความโรแมนติกก็โรแมสติกได้อย่างลึกถึงก้นบึ้งของหัวใจสุดๆ แต่พอถึงช่วงที่พีคของเพลงก็พีคจนปวดร้าวสุดๆ เขาดเป็นคนที่ดื่มด่ำของทุกช่วงอารมณ์ได้สุดๆ 

ประวัติเพลง

  1. Brahms Sonata for cello and piano in Eminor op.38 no.1

 Brahms ได้แต่งเพลงนี้ไว้ทั้งหมด 3 ท่อนใน Cello Sonata in E minor Op. 38 แต่งในช่วงฤดูร้อนในปี ค.ศ.1862 เขาไม่ได้เขียนท่อนช้าที่เป็น Adagio ไว้ ใช้เวลาในการแต่งเพลงทั้งหมด 3 ปี เขาก็ได้เขียนเพลงเสร็จในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1865 เขาได้ตีพิมพ์วางขายประมาณปี ค.ศ.1871 และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการแสดงเพลงนี้ครั้งแรก ทั้ง 3 ท่อนของ Sonata บทนี้ ได้สร้างความเป็น Brahms ไม่น้อยก็มาก เริ่มต้นเพลงของท่อนที่1 จะมีความคล้ายกับเพลง Beethoven’s Cello Sonata in A major Op. 69 ท่อน Allegretto จะได้แนวคิดมาจากเพลงเต้นรำของ Schubert ที่แต่งสำหรบ Piano ท่อนสุดท้าย จะให้หวนกลับไปในรูป แบบ Contrapunctus 13 ใน Art of the Fugue ของ Bach

 

  เริ่มต้นด้วยท่อนที่ 1 Allegro non troppo จะเริ่มด้วยแนวทำนองที่เป็นแนวทำนองหลัก และให้ความรู้สึกที่มีพลังตามมาในแนวที่ 2 หลังจากช่วงที่เป็นที่เป็นความรู้สึกเร้าอารมณ์ จะย้อนกลับเข้าไปในแนวทำนองเดิม แต่ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ และในช่วงสุดท้ายของเพลงจะเปลี่ยนคีย์ เป็น E Major ให้ความรู้สึกที่เหมือนกับ “การจากไปอย่างสงบ”

 

 ในขณะที่บราห์มส์อยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนกับคลาราชูมันน์เขาเริ่มเขียน Cello Sonata บทแรก ที่ Bad Münsterใกล้เมืองฮัมบูร์กในฤดูร้อนปี 1862 เขาเขียนท่อนที่สองครั้งแรกและอาจเป็น Adagio ซึ่งไม่รวมอยู่ในเวอร์ชันสุดท้าย ชะตากรรมของขบวนการนี้และความเป็นไปได้ที่ไม่เคยมีมาตั้งแต่แรกเป็นเรื่องที่นักวิชาการของบราห์มส์ถกเถียงกันมากว่าศตวรรษแล้ว ในปีค. ศ. 1865 Brahms ได้ค้นพบแรงบันดาลใจหลังจากการเสียชีวิตของแม่ของเขาและท่อนแรกที่มีชื่อว่า Allegro non troppo อยู่ในรูปแบบ Sonata ที่มีการจัดแสดงการพัฒนาและการสรุปเนื้อหาที่ชัดเจนแม้ว่าการแบ่งธีมจะไม่ค่อยชัดเจน ในทางกลับกันธีมดูเหมือนจะเติบโตขึ้นจากกันและกันตามลักษณะในดนตรีของเขา

 

แหล่งอ้างอิง (reference):

    2.)  Liszt’s Sonetto 104 del Petrarca

      ‘Petrarch Sonnets’ ทั้งสามนี้ มักจะแสดงร่วมกันบ่อยๆ โดยแยกจากส่วนที่เหลือของ Italian Années. เขาได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีของ Francesco Petrarca  เกี่ยวกับความรักในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแต่ละอันก็เกี่ยวกับการรำพึงของนักเขียนที่มีต่อ Laura de Noves ในต้นฉบับคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงสำหรับเปียโนกับเทเนอร์ แต่หลังจากนั้น Liszt’s แต่งขึ้นใหม่เป็นเพลงประเภทเดี่ยวเปียโน ด้วยความที่ Liszt’s ชอบมากจึงจับสีสันของคำในกวีมาแต่งในเพลงได้ แต่อาจจะไม่ได้ตาม Text เป๊ะๆ 

       Sonetto 104 เป็นเพลงที่เต็มไปด้วย Passion และ Dramatic ที่สุดในชุด 3 เพลงนี้ ในบทนี้มันให้อารมณ์ที่เป็นความสับสน แปรปรวน เป็นความรู้สึกที่รักมากจากก้นบึ้งของหัวใจ  ให้ความรู้สึกเหมือนติดคุกแต่ก็เป็นอิสระในเวลาเดียวกัน หลายครั้งที่เจ็บปวดแต่ก็สนุกกับความเจ็บปวดนี้เช่นกัน ซึ่งเขาใช้การเปลี่ยน Harmonic แบบ Surpeise มี Furmata , Cadenza มีทั้งอารมณ์แปรปรวนและความนิ่งสงบ มีอะไรหลายอย่างที่ต่างกัน แล้วสุดท้ายจึงกลับมา Motive ต้นเพลง แล้วจบด้วยความนิ่งสงบ

bottom of page