top of page

มีเรื่องเล่าขานต่อกันมาเกี่ยวกับแม่มดผู้หนึ่งนามว่าเอวา เธอคือผู้ประทานความสมปรารถนาทุกประการแก่ผู้ที่ต้องการและร้องขอ เพียงแต่ว่าการได้พบเจอเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ ว่ากันว่าเธอจะปรากฏตัวเมื่อเธอต้องการเท่านั้น บางครั้งเธอก็ปรากฏตัวในฐานะเจ้าของร้านน้ำชาเล็กๆ หรือเจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีที่หลบซ่อนอยู่ในซอกหลืบที่ยากจะมองเห็น นักดนตรีมากมายต่างต้องการความช่วยเหลือจากเอวาและค้นหาเธอแทบพลิกแผ่นดิน

     ในขณะเดียวกันที่ผู้คนกำลังวุ่นวายกับข่าวลือที่ว่ามีคนพบเจอเบาะแสล่าสุดของแม่มดเอวาผู้นั้น หญิงสาวคนหนึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่สถาบันดนตรี วิชาเอกเปียโน ที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่ ป้ายชื่อที่อกเธอเขียนไว้ว่า ‘มอร์นิก้า’ เธอเป็นหญิงสาววัย21ปีดูธรรมดาไม่ได้โดดเด่น ความสามารถของเธอไม่ได้ต่างจากรูปลักษณ์ของเธอเท่าไหร่นัก ทันใดนั้นเอง!! มอร์นิก้าเดินหลงเข้าไปในอีกมิติทำใหเธอยืนสับสนอยู่สักพัก ก่อนจะได้พบกับแม่มด "เอวา"ที่เหลานักดนตรีตามหา... มอร์นิก้าตาเป็นประกาย เธอรู้สึตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน... หลังจากนั้นไม่นาน แม่มดเอวากับมอร์นิก้าก็ได้เป็นเพื่อนรักต่างมิติของกันและกัน... อยู่มาวันหนึ่ง มอร์นิก้าเริ่มหมดไฟกับการเรียน แต่เธอรู้ดีว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ เธอต้องสอบปฏิบัติวิชาเอกเปียโนของเธอ ซึ่งทำให้เธอกังวลไม่น้อย เธอจึงแวะมาหาเอวาที่ร้านน้ำชาเพื่อขอกำลังใจ พวกเธอนั่งอยู่บนโต๊ะไม้ทรงกลมเล็กๆพลันนั่งจิบชาถ้วยสีฟ้าด้วยกัน พูดคุยกันอย่างสนิทสนมและอบอุ่น นั่งหัวเราะด้วยกัน จนทำให้ความกังวลของมอร์นิก้าค่อยๆหายไป และเริ่มมีไฟขึ้นอีกครั้ง เปรียบเหมือนการได้กำลังใจจากเพื่อนๆของเธอก่อนสอบ การได้นั่งหัวเราะระหว่างรอสอบที่สนกดดันอยู่หน้าห้องกับเพื่อนๆที่น่ารักของเธอ เธอจึงรู็สึกมั่นใจที่จะไปสอบเพลงแรกแล้ว! มอร์นิก้าบอกกับเอวาว่า "ขอบคุณมากนะเอวา เดี๋ยวเราไปสอบก่อนนะ" แล้วในวันนั้นมอร์นิก้าก็สอบเพลง The Most Brilliant Chopin Waltz in A-flat major Op.34 No.1 ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งเวทย์มนตร์ที่เอวาประทานให้ในครั้งแรก คือ คำว่า "ใช่แล้วมอร์นิก้า การที่เรานั่งหัวเราะด้วยกัน เรื่องน่ากลัวก็จะหายไปเอง "

เมื่อวานนี้มอนิก้าสอบผ่านไปได้ด้วยดี เธอมีความสุขมากๆเลยล่ะ  วันต่อมาเธอเดินมาที่ร้านน้ำชาอีกครั้ง พลันได้ยินเสียงเปียโนบรรเลงเพลงเพลง Liszt - Liebestraum No. 3 (Love Dream) ที่เอวาบรรเลงอยู่ เมื่อเอวาเห็นว่ามอนิก้ามาหา ระหว่างที่เอวากำลังเล่นเปียโนอยู่นั้น เธอบอกมอนิก้าว่า ลองหยิบถ้วยชาสีชมพูทีตั้งอยู่ตรงนั้นมาดื่มดูสิ ทันใดนั้น เธอรู้สึกได้ว่าเพลงนี้ช่างเป็นความรักที่ชวนฝัน เหมือนวันที่พ่อและแม่ของเธอแต่งงานกันราวกับเป็นชีวิตของเจ้าชายกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เธอลองมาเล่นเพลงนี้ดูบ้างไหม ? เอวาถามมอนิก้า จากนั้นมอนิก้าก็ได้เริ่มบรรเลงเปียโนในร้านน้ำชาของเอวา  ซึ่งเวทย์มนตร์ที่เอวาประทานให้ในครั้งนี้ คือ คำว่า “เรื่องราวในเทพนิยาย เกิดขึ้นได้จริง เพียงแค่คุณต้องลงมือทำให้มันเกิดขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ” เติมคำว่า เฉกเช่นเดียวกับความรักของพ่อแม่ที่มอร์นิก้าจำได้ 

สัปดาห์ต่อมา มอนิก้าต้องเล่นเพลง  Friedrich Gulda: Play Piano Play No. 6 ใน studio class piano รสชาติของชาถ้วยสีน้ำเงินที่เอวาให้เธอเป็นของขวัญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และโน้ตเพลงในมือทำให้เธอตื่นเต้นมากกว่าครั้งไหนๆ แต่เมื่อถึงคิวที่เธอต้องเล่นให้อาจารย์และเพื่อนๆฟัง เธอได้ควบคุมสมาธิและสติของตนเอง ทันใดนั้น ! ในหัวของเธอมีภาพตัวโน้ตชัดเจนกว่าที่เคย สมาธิเธอจดจออยู่แค่ตัวโน้ต เธอไม่สนใจสายตาที่กดดันของเหล่าอาจารย์ที่นังมองอยู่ในห้องเลยแม้แต่นิด จิตของเธอสงบนิ่งอย่างคาดไม่ถึง จนทำให้เธอเล่นเพลงนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยความแข็งแกร่งของเพลงนี่เอง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีภาพฮีโร่ฉายอยู่ในหัวของเธอ ซึ่งฮีโรคนนั้นก็คือพ่อของเธอที่ยืนปรบมือให้เธออยู่นั่นเอง

 หลังจากที่เธอเข้าไปเล่นเพลงในคาบ studio class เสร็จ เธอต้องไปสอนเปียโนให้ลูกศิษย์ของเธอต่อ แต่เธอดันลืมโน้ตที่จะไปสอนนี่สิ ! ทันใดนั้นเอง เอวาก็ปรากฎตัวต่อหน้าเธอ ทำให้มอร์นิก้าตกใจไม่น้อย พร้อมกับยื่นโน้ตเพลง  Mozart - Variation "Ah, vous dirais-je, Maman" KV265 กับถ้วยชาสีเหลืองให้มอนิก้าดื่มเพื่อเพิ่มพลัง ก่อนเธอจะเดินไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังบ้านของลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอ...

     สวัสดีค่ะคุณครู เด็กน้อยชื่อ สโนว์ เข้ามาทักทายเธอด้วยการสวมกอด มา เรามาเริ่มเรียนเพลงนี้กันเลย มอนิก้ากล่าว มอร์นิก้าอธิบายเรื่องราวของเพลงนี้ให้เด็กน้อยฟังว่า มันมาจากเพลง Twinkle twinkle little star หรือ Alphabet song นั่นเอง มันอาจจะฟังดูเป็นเพลงง่ายๆ แต่มันมีทำนองเดียวกันทั้งเพลง แต่แตกเป็น Variation ได้หลากหลาย แถมยังต้องใช้ความแข็งแรงของนิ้วในการเล่นให้หวานแต่ก็ต้องแข็งแรงอีกนะ เวทย์มนต์ของเอวาที่มอร์นิก้าพอเดาได้ คือ คำว่า “ถึงเพลงจะฟังดูอ่อนโยน แต่มันไม่ได้อ่อนแอเลยนะจ๊ะ” มอนิก้ากล่าว 

       เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายปีภายในรั้วสถาบันดนตรีที่มอนิก้าศึกษาอยู่นั้น กำลังจะจบลงอย่างสวยงามแล้วล่ะ ! วันนี้เป็นวันที่มอร์นิก้าต้องสแดงคอเสิร์ตของวิชา Recital เพื่อเป็นโปรเจคจบการศึกษาของเธอ

       เอวาได้มาเชียร์เธออยู่หน้าเวที เพียงแต่คนอื่นๆคงจะมองไม่เห็นเอวาเหมือนท่มอนิก้าเห็น ก่อนมอร์นิก้าจะขึ้นคอนเสิร์ต เอวาสวมกอดเธอให้กำลังใจพร้อมกับยื่นถ้วยชาสีเทาให้มอนิก้าดื่ม เธอเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างมั่นใจ พร้อมกับบรรเลงเพลง  Chopin - Waltz in Eminor ให้ผู้ชมและเอวาได้ฟัง ในหัวของเธอนึกถึงในวัยเด็กของเธอที่เล่นเปียโนแบบไม่ต้องคิดอะไร แต่พอโตขึ้นเรื่อยๆ เธอกลับยิ่งเครียดกับมันมากขึ้น จนมีหลายอารมณ์ปนกัน ทั้งความท้อแท้ เหนื่อยใจ หมดไฟ แต่จริงๆแล้ว 4 ปีที่เธอเรียนมามันกลับมีความสุขและได้ประสบการณ์เยอะเลยล่ะ ถึงเธอจะจำความรู้สึกตอนเด็กๆที่เธอเล่นเปียโนไม่ค่อยจะได้แล้ว แต่สิ่งที่เธอไม่ลืมเลยก็คือ เธอมีความสุขทุกครังที่ได้บรรเลงเปียโน.... 

       หลังจากนั้น มอร์นิก้าก็ได้เข้าใจว่า "ถ้วยชาแต่ละถ้วยที่เอวามอบให้เธอ มันไม่ใช่เวทย์มนต์ เพียงแต่เทย์มนต์ต่างๆที่เกิดขึ้น มันมาจากพลัง ความคิด และความรู้สึกของมอร์นิก้าสร้างขึ้นมาเองต่างหากล่ะ เพราะฉะนั้น มนุษย์ทุกคนอาจจะมีเวทย์มนต์หรือพลังอะไรสักอย่างอยู่ในตัวเองก็ได้นะคะ คุณคิดเหมือนกันไหม ?..... เอวาอยากถามผู้อ่านเรื่อง The Witch Piano ทุกๆคน 

 

       พวกคุณลองไปหาคำตอบกันดูสิคะ : ) 

     

 

    

   

bottom of page